DCA คือคำตอบสำหรับทุกสิ่ง (1) โดย คุณ Lin

ทุกช่วงตลาด โดยเฉพาะตลาดที่เฉยชาอย่างปัจจุบัน ผมกลับมานั่งทบทวนพอร์ตและวิชา ตำรา หนังสือต่าง ๆ ทีเรียนมาใหม่อีกรอบทุกครั้ง

หลายครั้ง ราคาหุ้นเขยิบขึ้นไปสูงจนผมอยากจะขายหลายครั้ง หรือหลายครั้ง ราคาหุ้นไม่ขยับไปไหนเลย ในระยะเวลาที่ยาวนาน หรือแย่กว่านั้น ราคาหุ้นกลับลดลงผิดกับที่คาดไว้ ทุกความรู้สึกที่ถาโถม เป็นเครื่องพิสูจน์นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาวทุก ๆ ครั้ง

PE สูงจนน่ากลัว (ราคาหุ้นขยับขึ้นไปตลอดโดยกำไรตามไม่ทัน) หรือต่ำจนน่ากลัว (ราคาหุ้นขยับลงตลอด ทั้ง ๆ ที่กำไรปัจจุบันเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว) ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนหวั่นไหว Indicator หลาย ๆ ตัวที่เป็นจุดทดสอบนักลงทุนก็ปรับจนอยู่ในโซนขาย และ

คำถามข้างต้นผมนั่งดูสิ่งที่เป็นคำตอบส่วนตัวของชีวิตการลงทุนที่ผ่านมา มีทั้งการขายทิ้งไปก่อนแล้วกลับมาซื้อ หรือขายไปแล้วไปลับ แบบที่เรียกว่าขายหมู หรือถือจนเบื่อ ก็มีทั้งผิดบ้าง ถูกบ้าง และผมก็พบอีกอย่างหนึ่งว่าการเข้าซื้อที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า อาจจะไม่ยากเย็นเท่ากับการถือหุ้น หากนักลงทุนเริ่มมีความชำนาญขึ้นในการวัดมูลค่า การถือหุ้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการเป็นนักลงทุนระยะยาว

หากสังเกตหุ้นที่บัฟเฟตต์ถืออย่าง Coke ก็เห็นได้เลยว่า มีนักลงทุนหลายคนเคยซื้อด้วยความคิดเหมือนบัฟเฟตต์ แต่ที่ไม่เหมือนคือวิธีคิดตอน “ถือหุ้น” ที่ผมคิดว่าหาคนมาเทียบได้ยากมากบนโลกใบนี้ ผมเฝ้าแสวงหาเหตุผลว่าบัฟเฟตต์ทำได้อย่างไร ก็พบได้คำตอบเดียวคือ DCA


ราคา Coke ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ที่มีระยะเวลารอคอยที่ยาวนานในช่วงทศวรรษ 70


ราคา Coke ใน 10 ปีล่าสุด ที่มีการขยายตัวในตลาดเกิดใหม่มากมาย แต่ราคาไม่ไปไหน (กราฟนี้เป็น Scale Log นะครับ)

Competitive Advantage คือความสามารถในการแข่งขันที่อยู่กับตัวธุรกิจ อาจจะเป็นตราสินค้าที่มีคนจงรักภักดี ต้นทุนการผลิต เทคโนโลยี สิทธิบัตร หรือทำเลทางธุรกิจ แต่สิ่งนี้ไม่เพียงพอสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะบัฟเฟตต์บอกว่า ความสามารถในการแข่งขันที่ดีจะต้อง “ยั่งยืน” ด้วย หรือที่แกเรียกมันว่า Durable Competitive Advantage

สิ่งนี้ถ้าพบก่อนคุณก็จะกำไรมหาศาล ยิ่งถ้ามุมมองคุณไม่เหมือนกับตลาดในทีแรก แต่ถึงคุณจะพบมันทีหลัง มันก็จะส่งผลทวีให้คุณได้หากคุณถือหุ้นระยะยาวเพียงพอ ผมคิดว่า concept ง่าย ๆ แค่นี้ นักลงทุนที่ลงทุนมาแล้วระยะหนึ่งย่อมเข้าใจได้ไม่ยาก แต่เพราะอะไรถึงปฏิบัติได้ไม่เหมือนบัฟเฟตต์

ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งคือ บัฟเฟตต์มองแต่ DCA ตลอดเวลา เรียกว่าทุกลมหายใจ จากการนั่งฟังเทปแกบรรยาย รวมถึงอ่านรายงาน ไม่เคยมีส่วนไหนที่ไม่พูดถึง DCA ส่วนนักลงทุนทั่วไปมองแต่ราคา หรือมูลค่าในระยะสั้น รวมถึงกำไรในระยะสั้น ๆ และอีกสิ่งหนึ่งคือความไม่ศรัทธาใน DCA หรือคิดว่า มันไม่มีจริง ไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทย หรืออะไรก็ตาม อันที่จริง ถ้าค่อย ๆ มองจะเห็นว่า ธุรกิจไหนที่ผู้บริหารมุ่งสร้าง DCA ธุรกิจไหนที่มุ่งแต่สร้าง EPS หรือมุ่งเน้นแต่กำไร

ผมคิดว่าถ้าเราไม่โลภเกินไปนัก อดทนรอไประยะหนึ่ง จะพบได้ว่าสิ่งหนึ่งที่ถูกและไม่เคยผิดเลยคือ สำหรับนักลงทุนระยะยาว มีแต่ DCA เท่านั้นที่เป็นคำตอบสำหรับทุกสิ่งของการถือหุ้น (ให้ประสบความสำเร็จ :) )
โดย:  Lin
credit:  http://10000li.net/2011/07/14/answerdca/

~ by entaneer on October 28, 2011.

Leave a comment